วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

วิตามินที่แก้ปัญหาสภาพผิวต่างๆได้อย่างตรงจุด

   สารบำรุงผิวมีข้อดีที่แตกต่างและชัดเจนในเรื่องการบำรุงผิว จริงๆแล้วสารสกัดจากธรรมชาติ ก็มีวิตามินที่แฝงอยู่เพียงแต่ว่าเราเลือกใช้วิตามินตรงกับปัญหาสุขภาพผิวจริงๆหรือไม่

   เรา https://www.facebook.com/Whitesafety  แนะวิธีเลือกใช้วิตามิน เพื่อให้ผิวคุณมีผิวที่สวย ใส ขาว ไร้ริ้วรอย เรียกได้ว่าผิวสวยสมบูรณ์แบบ

หากคุณมีปัญหารอยจาง ๆ บนใบหน้าหรือรอยย่นของวัย 
เลือกใช้ : วิตามินเอ
   นอกจากการเลือกใช้เครื่องสำอาง เพื่ออำพรางริ้วรอยต่าง ๆ ของวัยแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล หรือ เรตินเอ ซึ่งเป็น วิตามินเอชนิดหนึ่ง ก็สามารถลดริ้วรอยจาง ๆ ของผิวได้ โดยมีผลการ วิจัยจาก วารสารของสมาคมแพทย์ผิวหนังของสหรัฐ ล่าสุด ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลเอ ในปริมาณเพียง 1 % ก็เพียงพอ ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้โครงสร้างของผิวมีความ ยืดหยุ่นดีขี้น และช่วยลดริ้วรอยของวัยได้ แต่เครื่องสำอางโดยทั่วไป มักมี เรตินอลเอ ในปริมาณ 0.05-0.5 % จึงอาจทำให้เห็นผลได้ช้าขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงควรตรวจสอบว่า มีเรตินอลเอ อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่

หากคุณมีปัญหาผิวบอบบาง แพ้ง่าย
เลือกใช้ : วิตามินบี 3
   สำหรับคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่จะไม่แนะนำให้ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ประเภท glycolic , salicylic acid รวมทั้ง AHA เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะค่อนข้างรุนแรงต่อผิว และอาจทำให้เกิดปัญหาการแพ้ได้มากขึ้น Zoe Draelos แพทย์ผิวหนังจากมหาวิทยาลัย เวค ฟอเรส ในนิวยอร์ค แนะนำให้ผู้ที่ มีปัญหาผิวบอบบาง แพ้ง่าย ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 หรือ ไนอาซิน (niacin) ซึ่งจะมีความเป็นกรดต่ำ จึงทำให้ระคายเคืองต่อผิว ได้น้อยกว่า

หากคุณมีปัญหาผิวพรรณจากแสงแดด (กระ ฝ้า และริ้วรอย)
เลือกใช้ : วิตามินซี
   มีผลการศึกษาที่ลงพิมพ์ในวารสาร the Journal of Applied Cosmetology ระบุว่า วิตามินซี มีผลดีต่อผิวโดยทำหน้าที่เหมือน สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีของแสงแดด รวมทั้งมลภาวะต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิด กระ จุดด่างดำบนผิวหน้า รวมทั้ง อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ แต่อย่างไรก็ตาม การจะได้ผลิตภัณท์ที่มี ส่วนผสมของวิตามินซี ให้ได้ผลนั้น ลิตภัณฑ์ดังกล่าว ควรมีวิตามินซี ผสมอยู่ในปริมาณ 10 % หรือสูงกว่า และควรใช้ทุกวันก่อนออกจากบ้าน เหมือนกับการใช้ครีมป้องกันแดด

หากคุณมีปัญหาผิวแห้ง หรือผิวหยาบกร้าน
เลือกใช้ : วิตามินบี 5 หรือวิตามินอี
   วิตามินทั้งสองชนิดนี้ มักจะรู้จักดีว่า เป็นเสมือนสารมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่วิตามินอียังทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ได้ดีอีกด้วย แต่ผลการวิจัยจาก มหาวิทยาลัยไมอามี เมื่อเร็ว ๆนี้ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินที่มีขายกันในตอนนี้ ยังไม่มี ผลดีต่อการลดริ้วรอย แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำให้ใช้วิตามิน เพื่อเพิ่ม ความชุ่มชื้นให้แก่ผิวมากกว่าที่จะหวังผลในด้านช่วยลดริ้วรอยของวัย

หากคุณมีปัญหารอยคล้ำใต้ตา
เลือกใช้ : วิตามินเค เรตินอลเอ หรือวิตามินซี
   ปัญหารอยคล้ำใต้ตานั้น บางครั้งก็ไม่ได้เกิดจากการอดนอนเสมอไป เพราะอาจจะมีสาเหตุมาจากการเป็น โรคภูมิแพ้ การขยี้ตาบ่อย ๆ สูบบุหรี่ หรือจากกรรมพันธุ์ก็ได้
   วิตามินเค จะช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงทำให้สีผิว บริเวณนี้หายคล้ำลงได้ และมีผลการวิจัยล่าสุด พบว่า การใช้วิตามินเค 1 % ผสมกับ เรตินอลเอ ปริมาณ 0.15 % จะมีผลดีต่อการลดรอยคล้ำ ใต้ตาได้อย่างชัดเจนขึ้น แต่ก็อาจจะเกิดปัญหาระคายเคืองได้บ้าง Jeffrey Blumberg ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย Tufts บอกว่า วิตามินซี ก็ช่วยแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตาได้ดีเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น